สำหรับประเทศญี่ปุ่น มี ฟรีวีซ่า (Free Visa) ให้คนไทยสำหรับการท่องเที่ยว โดยพำนักได้ไม่เกิน 15 วัน ในกรณีที่มีจุดประสงค์อื่นในการมาเยือนประเทศ เช่น การทำงาน เพื่อการศึกษา บุคคลนั้นต้องทำการยื่นขอวีซ่า (Visa) ที่ตรงกับจุดประสงค์ของตนเองและสามารถพำนักอยู่ได้ในระยะเวลาที่กำหนด
แต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางญี่ปุ่นได้ประกาศออกมาว่า จะมีการออกวีซ่า (Visa) ประเภท Digital Nomad Visa สำหรับผู้ที่ทำงานผ่านระบบออนไลน์ เช่น Work From Home, Content Creator หรือ Youtuber ซึ่งเป็นบุคคลที่อยากทำงานและท่องเที่ยวไปด้วย โดยสามารถพำนักได้นานถึง 6 เดือน
อาชีพ Digital Nomad เริ่มมีอาชีพนี้เกิดขึ้นมา ในช่วงที่ Covid-19 ระบาด ทำให้หลายบริษัทอนุญาตให้พนักงานทำงานที่บ้านหรือสถานที่อื่น ๆ ได้ และถึงแม้สถานการณ์ Covid-19 จะเริ่มดีขึ้น แต่ก็ยังมีหลายบริษัทที่ปรับวิธีการทำงานให้เหมาะกับคนรุ่นใหม่ โดยมีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพียงแค่ทำงานให้ตรงตามเป้าหมาย ก็สามารถทำงานที่ไหนก็ได้ (Work From Anywhere)
แม้กระทั่ง สาย Content Creator ไม่ว่าจะ Youtuber หรือ Tiktoker ซึ่งเป็นอาชีพที่กำลังมาแรงในยุคดิจิทัล (Digital) ก็นับเป็น Digital Nomad อาชีพหนึ่ง
หากใครที่อยากทำงานและเที่ยวประเทศญี่ปุ่นไปด้วย ก็เตรียมกระเป๋าเดินทางให้พร้อม แล้วไปดูเงื่อนไขการยื่นขอวีซ่า (Visa) ประเภท Digital Nomad Visa ว่ามีอะไรบ้าง
ซึ่งผู้ที่สามารถยื่นขอวีซ่าประเภท Digital Nomad Visa ได้ จำเป็นต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- มีรายได้ต่อปี 10,000,000 เยน หรือ ประมาณ 2,375,483 บาท (อ้างอิงจากอัตราการแลกเปลี่ยน เดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2567)
- สำหรับอาชีพฟรีแลนซ์ (Freelance) มีหลักฐานที่สามารถทำงานระยะไกลได้
- มีประกันสุขภาพ
- Digital Nomad Visa ไม่สามารถขอเปลี่ยนเป็น วีซ่าอาศัยถาวร ได้
- ครอบครัวสามารถติดตามได้ และ ต้องมีประกันสุขภาพทุกคน
ซึ่งหลังจากได้วีซ่า (Visa) แล้ว เราก็ควรทำตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การขอวีซ่า (Visa) ครั้งต่อไปสะดวกมากขึ้นและไม่รบกวนนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่ต้องการยื่นขอวีซ่า (Visa)
นอกจากนี้การไปประเทศญี่ปุ่นในระยะยาวก็ควรคำนึงถึงจำนวนสัมภาระให้ดีว่า เพียงพอสำหรับการเดินทางหรือเปล่า และแน่นอนว่าหลังจบทริปแล้ว หลายคนต้องขนของฝากกลับประเทศ จึงต้องคำนวณด้วยว่ากระเป๋าเดินทางของเราเพียงพอต่อจำนวนของฝากหรือไม่ รวมถึงน้ำหนักของกระเป๋าเดินทางในขากลับว่าต้องซื้อเพิ่มหรือเปล่า
ทั้งนี้หากจำนวนน้ำหนักกระเป๋าเดินทาง เกินกว่าที่เราซื้อน้ำหนักกระเป๋าเดินทางกับทางสายการบิน แนะนำว่าควรทำการซื้อน้ำหนักกระเป๋าเดินทางเพิ่มก่อนวันบินกลับ เพราะจะได้ราคาที่ถูกกว่าซื้อน้ำหนักกระเป๋าเดินหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์
หากใครยังไม่มีกระเป๋าเดินทางที่ถูกใจสำหรับทริปท่องเที่ยวหรือเตรียมไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น ก็สามารถทักมาสอบถามกับทาง Bagsfirst ได้ทุกช่วงเวลา ซึ่งทางร้านมีประสบการณ์การขายกระเป๋าเดินทางมากกว่า 10 ปี เราพร้อมให้คำปรึกษาเรื่องกระเป๋าเดินทางแบบครบวงจร และยังมีบริการหลังการขาย โดยทางร้านมีรับประกันกระเป๋าเดินทางทุกใบนานถึง 3 ปี
แนะนำกระเป๋าเดินทาง Bagsfirst
กระเป๋าเดินทาง รุ่น Easy Pack J-08
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้า
- ทำจากวัสดุ PC หรือ โพลีคาร์บอเนต 100% เป็นพลาสติกคุณภาพสูง ทำให้มีความแข็งแรงทนทานและยืดหยุ่นมากๆ น้ำหนักเบาพกพาง่าย หยิบใช้ก็สะดวกค่ะ
- ขนาด กระเป๋าเดินทาง: 20”
- สี กระเป๋าเดินทาง: white
สามารถปรึกษาเรื่องกระเป๋าเดินทางหรือสั่งซื้อสินค้ากับ Bagsfirst ผ่านช่องทาง ดังต่อไปนี้
Facebook: https://www.facebook.com/bagsfirst/
IG: https://www.instagram.com/bagsfirst.official/
Tiktok: @bagsfirstshop
Website: http://bagsfirst.shop/
#Bagsfirst #กระเป๋าเดินทาง #DigitalNomadVisa #FreeVisa #ฟรีวีซ่า #ประเทศญี่ปุ่น #Japan #เที่ยวประเทศญี่ปุ่น #กระเป๋าเดินทางไปต่างประเทศ #กระเป๋าเดินทางคุณภาพดี